เมืองสีเขียว ล้ำด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม “ซานฟรานซิสโก” ถือว่าเป็นโมเดลเมืองแห่งความยั่งยืน ด้วยกลยุทธ์และแนวทางปฏิบัติที่หลากหลาย มุ่งมั่นลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน
เมื่อพูดถึงเมืองที่เป็นแบบอย่างของความยั่งยืน เราคงจะมีหลากหลายประเทศในใจ แต่วันนี้ พี่หมี ECOLIFE ขอแนะนำให้รู้จักกับ ซานฟรานซิสโก เมืองที่ไม่ได้มีเพียงแค่ภูมิประเทศที่สวยงาม แต่ยังเป็นเมืองที่มีการวางแผนและการดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในการรักษาสิ่งแวดล้อมและสร้างชุมชนที่ยั่งยืน พี่หมีเลยอยากจะพาทุกคนมาดูกันว่าอะไรที่ทำให้ซานฟรานซิสโกกลายเป็นโมเดลเมืองแห่งความยั่งยืนที่น่าสนใจ
กฎหมายห้ามใช้พลาสติก
ปี 2550 ซานฟรานซิสโกกลายเป็นเมืองแรกในสหรัฐอเมริกาที่ห้ามใช้ถุงพลาสติกใส่สินค้า ต่อมาในปี 2557 ก็ประกาศห้ามให้ขวดน้ำดื่มพลาสติก และในปี 2559 ซานฟรานซิสโกเข้าร่วมกับลอสแองเจลิส และ พอร์ทแลนด์ เพื่อออกข้อบังคับห้ามใช้โฟม
ในปี 2562 เมืองซานฟรานซิสโกได้มีการเริ่มปฏิวัติและกลายเป็นเมืองแรกที่ห้ามขายขวดน้ำพลาสติก ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวทั่วโลกซึ่งจะลดปริมาณขยะที่ถูกโยนลงทุกปี ซึ่งสืบเนื่องมาจากปี 2557 ที่มีการวางแผนที่จะยุติการขายขวดน้ำพลาสติกซึ่งมีขนาด 21 ออนซ์หรือน้อยกว่าในพื้นที่สาธารณะ
การจัดการทรัพยากรและพลังงานที่มีประสิทธิภาพ
หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้ซานฟรานซิสโกเป็นเมืองที่ยั่งยืนคือการจัดการทรัพยากรและพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เมืองนี้มีเป้าหมายที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas Emissions) ให้เป็นศูนย์ภายในปี 2050 การใช้พลังงานทดแทนเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยลดการพึ่งพาพลังงานฟอสซิล
การขนส่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ซานฟรานซิสโกมีระบบขนส่งมวลชนที่ครอบคลุมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เมืองนี้มีรถไฟฟ้า รถบัส และรถรางที่ใช้พลังงานสะอาด รวมถึงมีโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการขี่จักรยานและเดินเท้าที่ดีเยี่ยม นอกจากนี้ การสนับสนุนการใช้ยานพาหนะไฟฟ้ายังเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการส่งเสริมการขนส่งที่ยั่งยืน
รถราง (cable car) เป็นการขนส่งที่วิ่งมาตั้งแต่ปี 1873 และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซานฟรานซิสโกที่ยังมีการใช้งานเชิงอนุรักษ์ ก็เปลี่ยนมาเป็นระบบไฟฟ้าอย่างสมบูรณ์ ในขณะที่ระบบขนส่งมวลชนหลัก เช่น รถเมล์ รถไฟฟ้า และเรือโดยสารก็เปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียนกว่า 90% แล้ว และรัฐบาลท้องถิ่นคาดว่าจะเปลี่ยนไปใช้พลังหมุนเวียนได้อย่างสมบูรณ์ในปี 2025
การจัดการของเสียอย่างยั่งยืน
การจัดการของเสียเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญในการทำให้เมืองมีความยั่งยืน ซานฟรานซิสโกมีนโยบาย Zero Waste ที่มุ่งหวังที่จะลดของเสียที่นำไปฝังกลบให้เป็นศูนย์ เมืองนี้ได้ตั้งเป้าที่จะรีไซเคิลและคอมโพสต์ของเสียทั้งหมดภายในปี 2020 ผ่านการให้ความรู้แก่ประชาชนและการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด
ซึ่งระบบการจัดการน้ำเสีย ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมลดการปล่อยคาร์บอนและการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ ก็คือสิ่งที่ซานฟรานซิสโกลงทุนเป็นอย่างมาก
การพัฒนาเมืองที่ยั่งยืน
ซานฟรานซิสโก เมืองสีเขียว ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน โดยการสร้างสิ่งก่อสร้างและโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การออกแบบอาคารที่มีประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน และการใช้พื้นที่สีเขียวเป็นสิ่งที่ได้รับการส่งเสริมอย่างมาก
ชุมชนและการมีส่วนร่วม
ความสำเร็จของซานฟรานซิสโกในเรื่องความยั่งยืนนั้นยังขึ้นอยู่กับการมีส่วนร่วมของชุมชน เมืองนี้สนับสนุนให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจและการดำเนินการต่าง ๆ เพื่อความยั่งยืน การจัดทำแผนที่สร้างสรรค์และการประชุมแบบเปิดเผยช่วยให้ประชาชนมีโอกาสที่จะเสนอแนะและมีส่วนร่วมในกระบวนการวางแผน
เมืองซานฟรานซิสโก นับได้ว่าเป็นตัวอย่างที่ดี ของเมืองที่สามารถดำเนินการเพื่อความยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การจัดการทรัพยากรและพลังงาน การส่งเสริมการขนส่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การจัดการของเสียอย่างยั่งยืน การพัฒนาเมืองที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และการมีส่วนร่วมของชุมชน ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เมืองนี้เป็นแบบอย่างที่ดีในการสร้างเมืองแห่งความยั่งยืน
หากประเทศเรามีการบังคับใช้กฎหมาย และเอื้ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในด้านของการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง ประเทศของเรา คงจะสามารถกลายเป็นประเทศที่มีการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ได้ไวกว่าที่คิด
✨โหลด ECOLIFEapp เพื่อเข้าร่วมเป็นชาว ECO ได้ที่ :
👉🏻iOS download: https://apple.co/3tNdnZF
👉🏻Android download: https://bit.ly/3LqkCMO
ติดตามข้อมูลข่าวสารของ คิดคิด และ ECOLIFE ได้ที่
Facebook: ECOLIFE