TikTok React for change 2023

2023

TikTok จุดประกายแนวคิดรักษ์สิ่งแวดล้อมในกลุ่มเยาวชนไทย ผ่านโครงการ “REact For Change ลองเปลี่ยนโลก 2023” ร่วมกับพันธมิตรอย่างกรุงเทพมหานคร กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และบริษัท คิดคิด จำกัด เจ้าของเว็บไซต์ ECOLIFE

แคมเปญนี้ชวนเยาวชนสร้างคอนเทนต์รักษ์โลกบน TikTok ภายใต้ 3 RE Challenge:

  1. Refill: พกภาชนะส่วนตัวเพื่อลดพลาสติกใช้ครั้งเดียว
  2. Recheck: ตรวจสอบการใช้ชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
  3. Recycle: คัดแยกขยะเพื่อการกำจัดและรีไซเคิล

กิจกรรมจัดขึ้นตลอด 3 เดือน (ตุลาคม-ธันวาคม 2566) โดยครูหรือเจ้าหน้าที่โรงเรียนสามารถบันทึกข้อมูลการแยกขยะในเว็บไซต์ ECOLIFE เพื่อติดตามผลและคำนวณการลดก๊าซเรือนกระจก โรงเรียนที่ลดก๊าซเรือนกระจกได้มากที่สุด 10 อันดับแรกจะได้รับรางวัล

นอกจากนี้ โรงเรียน Eco-School 931 แห่ง ทั่วประเทศ ที่ริเริ่มจากความมุ่งมั่นในการพัฒนาสิ่งแวดล้อมภายในโรงเรียนควบคู่ไปกับแนวทางการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมปลูกฝังความเป็นพลเมืองเพื่อสิ่งแวดล้อมในกลุ่มนักเรียนไทยรวมถึงบุคลากรภายในโรงเรียน 

โดยแคมเปญ REact For Change ลองเปลี่ยนโลก จะช่วยส่งเสริมให้เยาวชนไทยให้ตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้นผ่านการสร้างสรรค์คอนเทนต์บนแฟลตฟอร์ม TikTok และในเว็บไซต์ ECOLIFE ของ บริษัท คิด คิด จำกัด เป็นอีกส่วนสำคัญในการติดตามและวัดผลลัพธ์ของแคมเปญ โดยคุณครูหรือเจ้าหน้าที่โรงเรียนสามารถกรอกข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการขยะลงบนเว็บไซต์ ECOLIFE ซึ่งมีโปรแกรมที่ช่วยในการคำนวณ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของแต่ละโรงเรียน

TikTok มุ่งเน้นกลยุทธ์ Smart Environment เพื่อสร้างความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมในกลุ่มเยาวชนไทย ผ่านการส่งเสริมคอนเทนต์ด้านสิ่งแวดล้อมบนแพลตฟอร์ม เช่น แคมเปญ #ไม่เทรวม #EcoNewsTH และ #ECOLIFEapp โดยแคมเปญ #ไม่เทรวม ช่วยลดขยะได้ 52 ตันใน 1 เดือน และ 94 ตันใน 3 เดือน

TikTok เชื่อมั่นว่าแคมเปญ REact For Change จะเป็นจุดเริ่มต้นในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยทุกคนสามารถติดตามคอนเทนต์ REact For Change 2024 ได้ที่ช่อง TikTok ซึ่งจะช่วยสร้างผลกระทบเชิงบวก เกิดการรับรู้ และนำไปสู่การปฏิบัติในวงกว้างเร็ว ๆ นี้

In Campaign1 Minute28 January 2025

SDG5 2024

2023

SDG 5 หนึ่งในเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน 17 ประการ ด้วยเป้าหมายที่มากมาย แต่กลับมีเพียงคนส่วนน้อยที่จะเข้าใจ และให้ความสำคัญกับมัน ดังนั้นเราจะทำอย่างไร ให้คนทั่วไปสามารถเข้าใจความหมายได้โดยง่ายและกระชับมากยิ่งขึ้น

เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน 17 ประการ หรือ SDGs 17 (Sustainable Development Goals: SDGs) เป็นชุดเป้าหมายการพัฒนาระดับโลกหลังปี 2015 ที่ได้รับการรับรองจาก 193 ประเทศสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ

แต่ด้วยเป้าหมายหลักจำนวน 17 ข้อ และเป้าหมายแยกย่อยที่มีอีกมากมายจนยากที่จะจำได้ การที่เราจะเผยแพร่ข้อมูลในส่วนนี้ให้บุคคลทั่วไปเข้าใจและเห็นถึงความสำคัญคงเป็นเรื่องที่ออกจะยากไปเสียหน่อย เพราะหากเราจะมาบรรยายหรืออธิบายให้เข้าใจโดยทั่วกัน คงจะคล้ายคลึงกับการเลคเชอร์ที่ออกจะน่าเบื่อไปเสียด้วยซ้ำ..

ยุคสมัยเปลี่ยนไป การนำเสนอก็เปลี่ยนตาม 

เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ผู้คนเริ่มที่จะหันมาเสพเรื่องราวได้เพียงระยะเวลาสั้น ๆ การเล่าเนื้อหาที่ยาว แต่ไม่มีอะไรดึงดูดความสนใจของผู้คน ก็มักจะไม่ได้รับความสนใจ และออกจะเบื่อหน่าย ขนาดที่ว่าตัวเราเองยังต้องปัดผ่าน จึงไม่เป็นเรื่องที่แปลกเลยหากวิดีโอสั้น หรือ Reels ต่าง ๆ จะได้รับความนิยมมากกว่าคลิปยาว ๆ ที่เราชอบดูกันเมื่อ 5-6 ปีที่ผ่านมา เราจึงต้องหาวิธีสร้างการรับรู้และความเข้าใจ ในรูปแบบที่เข้าถึงได้ และย่อยง่ายมากกว่าเดิม แต่ขณะเดียวกันจะทำอย่างไรให้เราสามารถถ่ายทอดเรื่องที่เข้าใจได้ยาก ให้สามารถเข้าใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

Rap-Hip Hop แนวเพลงสะท้อนสังคม

อย่างที่เราเข้าใจกันดี เพลง แร็ป-ฮิปฮอป มักเป็นแนวเพลงที่พูดอย่างตรงไปตรงมา ใช้คำพูดกับเสียงเพลง บอกเล่าตัวตนและสิ่งที่เราต้องการจะสื่อออกมาได้มากกว่าแนวเพลงอื่น ๆ ซึ่งแร็ปเปอร์ส่วนใหญ่ มักจะใช้ความสามารถของตนเองและแนวเพลงประเภทนี้ในการบรรยายเนื้อหาสะท้อนปัญหาสังคมต่าง ๆ ทั้งด้านการทุจริตและเอาเปรียบของกลไกรัฐ ความรุนแรง ยาเสพติด ปัญหาการเมืองและการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ

 

Lana Michele หรือที่รู้จักกันในนาม MC Lyte แร็ปเปอร์หญิงเดี่ยวคนแรกของโลก ได้ออกอัลบั้ม “Lyte As A Rock” ในปี 1988 ซึ่งเป็นหนึ่งใน 100 อัลบั้มเพลงแร็ปที่ดีที่สุดจากนิตยสารดนตรี The Source ซึ่งการเกิดแร็ปเปอร์หญิงผิวสีจากที่เคยมีแต่แร็ปเปอร์ชาย เป็นการสะท้อนถึงการยอมรับสิทธิเสรีภาพและความสามารถของสตรีผิวดำในสังคมดนตรีอเมริกามากขึ้น

 

คิด คิด เราจึงมองเห็นว่า แนวเพลงแร็ป-ฮิปฮอป คือแนวเพลงที่เหมาะสมต่อการเล่าเรื่องราว และสื่อความหมายของ SDG5 ที่พูดถึงความเท่าเทียม และเสมอภาคได้เป็นอย่างดี จึงก่อให้เกิดเป็นเพลง “SDG 5” โดยได้แร็ปเปอร์หญิงมากความสามารถอย่าง “CYANIDE” มาช่วยเล่าเรื่องราวที่ยาก ให้สามารถเข้าใจง่ายมากยิ่งขึ้น

กว่าจะมาเป็น “SDG 5 – CYANIDE”

กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ต้องการที่จะสร้างการรับรู้แก่ประชาชน ถึงความเท่าเทียม และความเสมอภาค หมดยุคสมัยและแนวคิดที่ว่า ผู้หญิงต้องเป็นแม่บ้าน ผู้ชายต้องเป็นเสาหลักของครอบครัว หรือแม้แต่การให้เกียรติกับเพื่อนมนุษย์ด้วยกันก็เป็นสิ่งที่ต้องยึดถือและปฏิบัติ 

 

“ไม่ว่าใคร ก็มีสิทธิ์ที่จะใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง”

 

แต่ทุกสิ่งทุกอย่างจะเท่าเทียมได้ เราต้องเข้าใจ และคนรอบข้างก็ต้องสนับสนุนด้วยเช่นกัน การร่วมงานระหว่าง บริษัท คิด คิด จำกัด และนักร้องมากความสามารถอย่าง CYANIDE จึงได้เริ่มต้นขึ้น.. 

การสร้างความเข้าใจ ให้ความรู้ และคำแนะนำแก่ศิลปินคือหน้าที่ของเรา และตัวศิลปินเอง ก็ได้เข้าใจถึงเรื่องราวของ SDG5 ได้อย่างถ่องแท้ จึงกลายมาเป็นบทเพลงที่เข้ามาช่วยให้เราสามารถเข้าใจ SDG ข้อที่ 5 Gender Equality ความเสมอภาคระหว่างเพศ ได้ง่าย ๆ ผ่านบทเพลงที่มีท่อนร้องติดหู 

“SDG5 คือเท่าเทียม” “SDG5 คือเท่าเทียม” 

เราจึงอยากเชิญชวนทุกคน มาร่วมรับฟังบทเพลงนี้ และเข้าใจเรื่องราวของความเท่าเทียม และความเสมอภาคไปด้วยกัน สามารถรับชมและรับฟังบทเพลงดังกล่าวได้ที่นี่: https://youtu.be/QSkaQ-xG02c?feature=shared

In Communication1 Minutes28 January 2025

AIS Educators Thailand 2023

2023

SDG 5 หนึ่งในเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน 17 ประการ ด้วยเป้าหมายที่มากมาย แต่กลับมีเพียงคนส่วนน้อยที่จะเข้าใจ และให้ความสำคัญกับมัน ดังนั้นเราจะทำอย่างไร ให้คนทั่วไปสามารถเข้าใจความหมายได้โดยง่ายและกระชับมากยิ่งขึ้น

เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน 17 ประการ หรือ SDGs 17 (Sustainable Development Goals: SDGs) เป็นชุดเป้าหมายการพัฒนาระดับโลกหลังปี 2015 ที่ได้รับการรับรองจาก 193 ประเทศสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ

แต่ด้วยเป้าหมายหลักจำนวน 17 ข้อ และเป้าหมายแยกย่อยที่มีอีกมากมายจนยากที่จะจำได้ การที่เราจะเผยแพร่ข้อมูลในส่วนนี้ให้บุคคลทั่วไปเข้าใจและเห็นถึงความสำคัญคงเป็นเรื่องที่ออกจะยากไปเสียหน่อย เพราะหากเราจะมาบรรยายหรืออธิบายให้เข้าใจโดยทั่วกัน คงจะคล้ายคลึงกับการเลคเชอร์ที่ออกจะน่าเบื่อไปเสียด้วยซ้ำ..

ยุคสมัยเปลี่ยนไป การนำเสนอก็เปลี่ยนตาม 

เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ผู้คนเริ่มที่จะหันมาเสพเรื่องราวได้เพียงระยะเวลาสั้น ๆ การเล่าเนื้อหาที่ยาว แต่ไม่มีอะไรดึงดูดความสนใจของผู้คน ก็มักจะไม่ได้รับความสนใจ และออกจะเบื่อหน่าย ขนาดที่ว่าตัวเราเองยังต้องปัดผ่าน จึงไม่เป็นเรื่องที่แปลกเลยหากวิดีโอสั้น หรือ Reels ต่าง ๆ จะได้รับความนิยมมากกว่าคลิปยาว ๆ ที่เราชอบดูกันเมื่อ 5-6 ปีที่ผ่านมา เราจึงต้องหาวิธีสร้างการรับรู้และความเข้าใจ ในรูปแบบที่เข้าถึงได้ และย่อยง่ายมากกว่าเดิม แต่ขณะเดียวกันจะทำอย่างไรให้เราสามารถถ่ายทอดเรื่องที่เข้าใจได้ยาก ให้สามารถเข้าใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

Rap-Hip Hop แนวเพลงสะท้อนสังคม

อย่างที่เราเข้าใจกันดี เพลง แร็ป-ฮิปฮอป มักเป็นแนวเพลงที่พูดอย่างตรงไปตรงมา ใช้คำพูดกับเสียงเพลง บอกเล่าตัวตนและสิ่งที่เราต้องการจะสื่อออกมาได้มากกว่าแนวเพลงอื่น ๆ ซึ่งแร็ปเปอร์ส่วนใหญ่ มักจะใช้ความสามารถของตนเองและแนวเพลงประเภทนี้ในการบรรยายเนื้อหาสะท้อนปัญหาสังคมต่าง ๆ ทั้งด้านการทุจริตและเอาเปรียบของกลไกรัฐ ความรุนแรง ยาเสพติด ปัญหาการเมืองและการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ

 

Lana Michele หรือที่รู้จักกันในนาม MC Lyte แร็ปเปอร์หญิงเดี่ยวคนแรกของโลก ได้ออกอัลบั้ม “Lyte As A Rock” ในปี 1988 ซึ่งเป็นหนึ่งใน 100 อัลบั้มเพลงแร็ปที่ดีที่สุดจากนิตยสารดนตรี The Source ซึ่งการเกิดแร็ปเปอร์หญิงผิวสีจากที่เคยมีแต่แร็ปเปอร์ชาย เป็นการสะท้อนถึงการยอมรับสิทธิเสรีภาพและความสามารถของสตรีผิวดำในสังคมดนตรีอเมริกามากขึ้น

 

คิด คิด เราจึงมองเห็นว่า แนวเพลงแร็ป-ฮิปฮอป คือแนวเพลงที่เหมาะสมต่อการเล่าเรื่องราว และสื่อความหมายของ SDG5 ที่พูดถึงความเท่าเทียม และเสมอภาคได้เป็นอย่างดี จึงก่อให้เกิดเป็นเพลง “SDG 5” โดยได้แร็ปเปอร์หญิงมากความสามารถอย่าง “CYANIDE” มาช่วยเล่าเรื่องราวที่ยาก ให้สามารถเข้าใจง่ายมากยิ่งขึ้น

กว่าจะมาเป็น “SDG 5 – CYANIDE”

กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ต้องการที่จะสร้างการรับรู้แก่ประชาชน ถึงความเท่าเทียม และความเสมอภาค หมดยุคสมัยและแนวคิดที่ว่า ผู้หญิงต้องเป็นแม่บ้าน ผู้ชายต้องเป็นเสาหลักของครอบครัว หรือแม้แต่การให้เกียรติกับเพื่อนมนุษย์ด้วยกันก็เป็นสิ่งที่ต้องยึดถือและปฏิบัติ 

 

“ไม่ว่าใคร ก็มีสิทธิ์ที่จะใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง”

 

แต่ทุกสิ่งทุกอย่างจะเท่าเทียมได้ เราต้องเข้าใจ และคนรอบข้างก็ต้องสนับสนุนด้วยเช่นกัน การร่วมงานระหว่าง บริษัท คิด คิด จำกัด และนักร้องมากความสามารถอย่าง CYANIDE จึงได้เริ่มต้นขึ้น.. 

การสร้างความเข้าใจ ให้ความรู้ และคำแนะนำแก่ศิลปินคือหน้าที่ของเรา และตัวศิลปินเอง ก็ได้เข้าใจถึงเรื่องราวของ SDG5 ได้อย่างถ่องแท้ จึงกลายมาเป็นบทเพลงที่เข้ามาช่วยให้เราสามารถเข้าใจ SDG ข้อที่ 5 Gender Equality ความเสมอภาคระหว่างเพศ ได้ง่าย ๆ ผ่านบทเพลงที่มีท่อนร้องติดหู 

“SDG5 คือเท่าเทียม” “SDG5 คือเท่าเทียม” 

เราจึงอยากเชิญชวนทุกคน มาร่วมรับฟังบทเพลงนี้ และเข้าใจเรื่องราวของความเท่าเทียม และความเสมอภาคไปด้วยกัน สามารถรับชมและรับฟังบทเพลงดังกล่าวได้ที่นี่: https://youtu.be/QSkaQ-xG02c?feature=shared

In Communication1 Minutes28 January 2025

ทิ้งทูแทรช 2023

2023

ทิ้งทูแทรช โครงการแยกขยะ จาก กลต. และ สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย ให้การแยกขยะเป็นเรื่องง่าย โดยเริ่มจากในองค์กร

อย่างที่เรารู้กันว่าภาวะโลกร้อน คือมหัตภัยที่ยิ่งใหญ่และยาวนานที่สุด เป็นสภาวะที่ยากที่จะรักษาและส่งผลกระทบร้ายแรงไปทั่วทุกภาคส่วน และนับวันยิ่งทวีคูณความร้ายแรงมากยิ่งขึ้นไป

ภาวะโลกร้อนในยุคแรก

ย้อนกลับไปในช่วงปี 2551 หรือราว ๆ สิบกว่าปีที่ผ่านมา ปรากฏการณ์ก๊าซเรือนกระจกและภาวะโลกร้อน เริ่มเป็นที่ตระหนักรู้ในกลุ่มผู้คนทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศเป็นจำนวนมาก เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน อุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น และน้ำแข็งขั้วโลกละลาย สิ่งเหล่านี้นับเป็นปรากฏการณ์ในช่วงแรงของภาวะโลกร้อน ก่อนที่จะขยับมาเป็น “ภาวะโลกเดือด” ในปัจจุบัน

“ใช่ว่าที่ผ่านมามนุษย์ไม่พยายาม แต่มีเพียงส่วนน้อยที่ให้ความสำคัญ”

หลัก 7R คือสิ่งที่เราถูกสอนให้ปฏิบัติกันเพื่อช่วยลดก๊าซเรือนกระจก โดยจะประกอบด้วย Reduce, Reuse, Refill, Return, Repair, Replace และ Recycle ที่จะช่วยลดการผลิตใหม่ ลดการปล่อยก๊าซจากภาคอุตสาหกรรมสู่ชั้นบรรยากาศ การใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก รวมไปถึงการแยกขยะ เพื่อให้กระบวนการกำจัดเป็นไปได้อย่างถูกวิธี

ทว่า ยังมีน้อยคนที่ตระหนักและหันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เราบางคนก็ยังคงใช้ชีวิตดังเช่นทุกครั้ง ใช้พลาสติกใช้แล้วทิ้ง ทิ้งขยะไม่ลงถัง ไม่แยกขยะ และอีกมากมายที่เรามองว่ามันยังเป็นเรื่องไกลตัว

การแยกขยะ ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยาก

การแยกขยะนั้นเชื่อได้เลยว่าเป็นสิ่งที่ค่อนข้างปฏิบัติกันยาก แม้เราจะมองว่าก็แค่แยกขยะไม่ใช่เหรอ? แต่ในหลาย ๆ ครั้ง หลาย ๆ ที่ ก็ทำเอาเราสับสนมากกว่าจะเข้าใจ 

คนไทยส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยแยกขยะกันสักเท่าไหร่ เนื่องมองว่าเป็นเรื่องที่ยากและไม่มีการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง อีกทั้งถังขยะแต่ละจุด ก็มีสัญลักษณ์การทิ้งไม่เหมือนกัน บางที่ถังรีไซเคิลทิ้งแก้วพลาสติกได้ แต่บางที่เป็นถังรีไซเคิลเช่นเดียวกัน แต่กลับทิ้งแก้วพลาสติกไม่ได้

การที่ถังขยะแต่ละที่มีสัญลักษณ์ที่บ่งบอกไม่เหมือนกัน ก็สามารถสร้างความเข้าใจผิดให้กับคนที่ต้องการจะทิ้งได้อีกด้วย ดังนั้นแล้วหากเราจะโทษว่าคนส่วนใหญ่ไม่ยอมแยกขยะก็คงเป็นเรื่องที่ผิด เพราะการจัดการเรื่องของการแยกขยะ และการให้ความรู้ในเรื่องนี้ยังเบาบางอย่างเห็นได้ชัด ทั้งยังไม่มีการเอื้ออำนวยความสะดวกในการทิ้งให้คนทิ้งกันง่าย ๆ อีกด้วย

เริ่มต้นที่องค์กร จบที่ตัวเรา

เพราะเรามองเห็นถึงความสำคัญ และคาดว่าการเริ่มต้นในองค์กร จะช่วยเสริมสร้างนิสัยการแยกขยะ จนนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ บ. คิด คิด จึงได้ร่วมกับ ก.ล.ต. พัฒนาระบบ ในโครงการ “ทิ้ง ทู แทรช” (Ting To Trash) แยกขยะโดยใช้ Software ช่วยเก็บข้อมูล ที่นอกจากจะช่วยเก็บข้อมูลการคัดแยกขยะแล้ว ยังเป็นส่วนที่ช่วยให้พนักงานในองค์กรเข้าใจในเรื่องการคัดแยกขยะได้มากขึ้น

ที่ผ่านมาทางคิด คิด เราได้พัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับใช้เก็บข้อมูลการแยกขยะ และนำมาคำนวณเป็นจำนวนคาร์บอน ซึ่งระยะแรกได้นำร่องกับมหาลัยชั้นนำในประเทศไทย พบว่าได้รับกระแสตอบรับ และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของนิสิตและนักศึกษาไปในทิศทางที่ดี เพื่อที่จะสามารถขยายผลให้เป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้น การร่วมมือกับทาง กลต. และสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย จึงถือเป็นอีกการริเริ่มที่ดี

และเราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการแยกขยะในองค์กรเป็นประจำ จะนำไปสู่การต่อยอด สร้างเป็นนิสัยใหม่ที่พนักงานทุกคน จะนำหลักความรู้และการแยกขยะแบบนี้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้าน หรือแหล่งท่องเที่ยวใด ๆ ก็ตาม พร้อมทั้งส่งต่อเรื่องราวดี ๆ เหล่านี้สู่ผู้คนรอบข้าง เพื่อสร้างสังคมสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน

ทิ้ง ทู แทรช โครงการที่อยากให้ทุกคนหันมาแยกขยะมากยิ่งขึ้น

บริษัท คิด คิด จำกัด เราเป็นผู้ให้บริการด้าน Sustainability innovation Agency ที่ต่อยอดและพัฒนาความต้องการของบริษัทเครือข่าย ให้สามารถสร้างความยั่งยืนให้กับโลกได้ ในแบบฉบับไลฟ์สไตล์ของแต่ละองค์กร ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในโครงการแยกขยะ “ทิ้ง ทู แทรช” (Ting To Trash) จากการร่วมมือกันระหว่าง กลต. และ สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย

โดยโครงการในครั้งนี้ได้จัดตั้งขึ้น เพื่อส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนมีความรู้เข้าใจในวิธีแยกขยะที่ถูกต้อง และสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เริ่มต้นดำเนินการลดก๊าซเรือนกระจก ตลอดจนเปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมเรื่องการแยกขยะในรูปแบบรายงาน 56-1 One Report โดยมีบริษัทจดทะเบียนจำนวน 121 แห่งเข้าร่วม 

ซึ่งทุก ๆ ครั้งที่มีการแยกขยะ และสแกน QR Code ผ่านแพลตฟอร์ม ECOLIFE จะมีการบันทึกกิจกรรมการแยกขยะของบริษัทจดทะเบียน โดยข้อมูลการแยกขยะเหล่านั้น จะถูกคำนวณเป็นปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (kg.co20) ที่บริษัทจดทะเบียนที่เข้าร่วมโครงการสามารถลดได้ ตามสูตรการคำนวณขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.)

ในอนาคตเราหวังเป็นอย่างมาก ว่าเราจะสามารถต่อยอดโครงการดี ๆ เช่นนี้ ได้อย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น เพราะเราเชื่อว่า..

“การเริ่มต้นที่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง จะสามารถต่อยอดและแพร่ขยายไปในวงกว้างได้”

In Culture1 Minutes27 January 2025